ประกันชีวิต

หากต้องการสอบถามข้อมูลของผลิตภัณฑ์ประกันต่างๆ เพิ่มเติมจะต้องทำอย่างไร
ลูกค้าสามารถส่งข้อมูลสอบถามได้โดยคลิกที่ไอคอนสีฟ้ามุมขวาบนแล้วกรอกรายละเอียดต่างๆ ให้ครบถ้วน เมื่อเจ้าหน้าทีได้รับข้อความจะดำเนินการติดต่อกลับภายใน 1-2 วันทำการ หรือลูกค้าสามารถสอบถามกับศูนย์บริการลูกค้าทางโทรศัพท์ โทร. 099-0144699 
ทำไมต้องทำประกันชีวิต?

ประกันชีวิตนั้นโดยพื้นฐานแล้วถูกออกแบบมาเพื่อสร้างหลักประกันให้กับคนที่เรารักและห่วงใย ในกรณีที่เราจากไปก่อนวัยอันควร คนข้างหลังจะได้รับเงินก้อนชดเชยความสูญเสียทางการเงินชั่วระยะเวลาหนึ่ง

ปัจจุบันประกันชีวิตมีรูปแบบที่หลากหลายมากขึ้น เช่น ในรูปแบบของการออมทรัพย์ หรือสะสมทรัพย์ ทั้งนี้ ก็เพื่อช่วยในการสร้างวินัยการเก็บออมไว้เพื่อใช้ในอนาคต หรือจะเป็นประกันแบบบำนาญ ซึ่งตอบโจทย์สำหรับการวางแผนการเกษียณอายุอย่างมีความสุข นอกจากนี้ ก็ยังมีประกันสุขภาพ หรือประกันอุบัติเหตุ ที่จะเป็นสวัสดิการคุ้มครองค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลจากการเจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุอีกด้วย

ควรเริ่มซื้อประกันชีวิตเมื่อไหร่?
ประกันชีวิตนั้นเป็นเครื่องมือในการปกป้องความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต ชีวิตของคนเรานั้นตั้งแต่เกิดจนถึงเสียชีวิตก็ต้องเจอความเสี่ยงมากมายอยู่ตลอด ทั้งความเสี่ยงในเรื่องของการสูญเสียชีวิต การเจ็บป่วย หรือ การประสบอุบัติเหตุ ดังนั้น การซื้อความคุ้มครองตั้งแต่เนิ่น ๆ ก็เป็นการเตรียมพร้อมรับกับสถานการณ์ไม่คาดฝัน นอกจากนี้ การสมัครทำประกันตั้งแต่อายุยังน้อย ส่วนมากแล้วค่าเบี้ยประกันก็จะต่ำกว่าสมัครเมื่ออายุเยอะแล้วอีกด้วย

ประกันรถยนต์ชั้น 3+

ประกันรถยนต์ 3+ ผ่อนได้
  • ผ่อนชำระผ่านบัตรเครดิต 0% ระยะเวลา 6-10 เดือน ขึ้นอยู่กับบัตรเครดิต และยอดเบี้ยประกัน
  • ผ่อนเงินสด ใช้แค่บัตรประชาชน 0% ระยะเวลา 3-6 เดือน **เฉพาะบริษัทประกันที่เข้าร่วม


เช็คเบี้ยประกัน

ประกันรถยนต์ 3+ ไม่คุ้มครองอะไรบ้าง
ไม่คุ้มครอง กรณีรถสูญหาย และไฟไหม้
 ไม่คุ้มครอง กรณีถูกชนแล้วหนี หรือไม่ทราบคู่กรณี
ไม่คุ้มครอง การชนแบบไม่มีคู่กรณี เช่น ถอยชนเสา โดนหินกระเด็นใส่รถ รอยขีดข่วนจากสัตว์ เป็นต้น
ประกันรถยนต์ 3+ คุ้มครองน้ำท่วมหรือไม่
โดยทั่วไปประกัน 3+ ไม่คุ้มครองน้ำท่วม ยกเว้นเฉพาะบางแพกเกจที่บริษัทประกันได้เพิ่มความคุ้มครองน้ำท่วมให้เป็นพิเศษ
กรณีรถชนรถ ผู้เอาประกันเป็นฝ่ายผิด ประกันชั้น 3+ คุ้มครองไหม
ประกันชั้น 3+ มีการคุ้มครองเมื่อเกิดอุบัติเหตุแบบรถชนรถ แต่หากผู้เอาประกัน เป็นฝ่ายผิด อาจจะต้องจ่ายค่าเสียหายในส่วนแรก ขั้นต่ำ 2,000 บาท (ซึ่งขึ้นอยู่กับบริษัทประกัน) บางบริษัทไม่ต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรก แต่มีบวกเพิ่มไปกับค่าเบี้ยประกันแล้ว ดังนั้น ไม่อยากเสียเงินค่าเสียหายส่วนแรก ต้องขับขี่ให้ปลอดภัย อย่าไปชนใครให้เป็นฝ่ายผิดซะเองได้ง่ายๆ
ประกันรถยนต์ 3+ ต่างกับ 2+ อย่างไร
ประกัน 3+ กับ 2+ มีจุดแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือ ประกัน 3+ ไม่มีความคุ้มครองรถสูญหายและไฟไหม้ ส่วนประกัน 2+ มีความคุ้มครองนี้ ดังนั้นหากพิจารณาเลือกทำประกันจากความเสี่ยง ถ้าเรามีความเสี่ยงรถสูญหายและไฟไหม้ในระดับต่ำ เช่น มีที่จอดรถที่ปลอดภัย และรถไม่ได้ติดถังแก๊ส ก็อาจพิจารณาทำประกัน 3+ ได้
ประกันรถยนต์ 3+ ต่างกับประกันชั้น 3 อย่างไร
ความคุ้มครองที่ประกันชั้น 3 และประกัน 3+ มีเหมือนกันคือ ความคุ้มครองรับผิดต่อชีวิตและทรัพย์สินของคู่กรณี ในอุบัติเหตุที่เราเป็นฝ่ายผิดสำหรับส่วนที่ประกัน 3+ มีมากกว่า คือความคุ้มครองต่อตัวรถเรา ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุชนกับยานพาหนะทางบก (รถชนรถ)
ประกันรถยนต์ 3+ รถเก่าทำได้ไหม รับรถอายุไม่เกินกี่ปี
บริษัทประกันส่วนใหญ่ รับรถยนต์อายุไม่เกิน 15-20 ปี และราคารถควรมากกว่า 100,000 บาท ณ วันที่ทำประกัน

ประกันรถยนต์ชั้น 2+

ประกันรถยนต์ 2+ ผ่อนได้
  • ผ่อนชำระผ่านบัตรเครดิต 0% ระยะเวลา 6-10 เดือน ขึ้นอยู่กับบัตรเครดิต และยอดเบี้ยประกัน
  • ผ่อนเงินสด ใช้แค่บัตรประชาชน 0% ระยะเวลา 3-6 เดือน **เฉพาะบริษัทประกันที่เข้าร่วม


เช็คเบี้ยประกัน

ประกันรถยนต์ 2+ ไม่คุ้มครองอะไรบ้าง
 ไม่คุ้มครอง กรณีถูกชนแล้วหนี หรือไม่ทราบคู่กรณี
 ไม่คุ้มครอง การชนแบบไม่มีคู่กรณี เช่น ถอยชนเสา โดนหินกระเด็นใส่รถ รอยขีดข่วนจากสัตว์ เป็นต้น
ประกันรถยนต์ 2+ คุ้มครองน้ำท่วมหรือไม่
โดยทั่วไปประกันรถยนต์ 2+ ไม่คุ้มครองน้ำท่วม ยกเว้นเฉพาะบางแพกเกจที่บริษัทประกันได้เพิ่มความคุ้มครองน้ำท่วมให้เป็นพิเศษ
ประกันรถยนต์ 2+ ต่างกับ 3+ อย่างไร ลูกค้าทำแบบไหนมากกว่า

ประกันรถยนต์ 2+ กับประกันรถยนต์ 3+ มีจุดแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือ

  • ประกัน 2+ ให้ความคุ้มครองรถสูญหายและไฟไหม้ด้วย ในขณะที่
  • ประกัน 3+ ไม่มีความคุ้มครองนี้ ดังนั้นหากพิจารณาเลือกทำประกันจากความเสี่ยง ถ้าเรามีความเสี่ยงรถสูญหายและไฟไหม้ไม่มาก เช่น มีที่จอดรถที่ปลอดภัย และรถไม่ได้ติดถังแก๊ส ก็อาจพิจารณาทำประกัน 3+ ได้
ประกันรถยนต์ 2+ รถเก่าทำได้ไหม รับรถอายุไม่เกินกี่ปี
บริษัทประกันส่วนใหญ่ รับรถยนต์อายุไม่เกิน 15-20 ปี และราคารถควรมากกว่า 100,000 บาท ณ วันที่ทำประกัน

ประกันรถยนต์ชั้น 1

ประกันชั้น 1 คุ้มครองอะไรบ้าง (กรณีประกันจ่าย)

คำตอบนี้ เราจะพูดถึงในส่วน ที่ผู้เอาประกัน ได้รับทราบตามเงื่อนไขกรมธรรม์ที่เลือกไว้ ก็คือกรณี ที่เกิดอุบัติเหตุขึ้น แล้วประกันจ่าย ซึ่งจะให้ความคุ้มครอง ครอบคลุมครบ ได้แก่

  • รถชน แบบมีคู่กรณี โดยเจ้าของรถยังอยู่เคลียร์ สามารถเรียกประกันคุ้มครองได้
  • รถชน แต่ไม่มีคู่กรณี ซึ่งเราอาจถอยไปชนเอง หรือ มีคนมาเฉี่ยวท้ายรถแล้วหนี
  • เมื่อเกิดเหตุโจรกรรม รถหาย ไม่สามารถตามหาเจอได้ ประกันนี้คุ้มครองความเสียหายให้
  • รถเสียหายจากภัยพิบัติต่างๆ เช่น ไฟไหม้ น้ำท่วม เป็นสิทธิคุ้มครองเพิ่มเติมจากประกันชั้น 1
ครอบคลุมการรักษาพยาบาลของผู้ขับขี่ เมื่อบาดเจ็บ และ ค่าใช้จ่ายความเสียหายต่อทรัพย์สินทั้งตัวเรา และคู่กรณี พูดง่ายๆ ก็คือ ประกันชั้น 1 ซ่อมเขา+ซ่อมเรา+สูญหาย+ไฟไหม้+น้ำท่วม+รักษาพยาบาล ได้หมด!!
ประกันชั้น 1 ไม่คุ้มครองอะไรบ้าง (กรณีประกันไม่จ่าย)

ใช่ว่า มีประกันชั้น 1 แล้วจะเคลมฟรี ทุกกรณีไป เพราะประกันชั้น 1 ก็มีเงื่อนไขที่ไม่สามารถคุ้มครองได้อยู่หลายประการ นั่นก็คือ

  1. ดื่มแล้วขับ
    ในกรณีที่มีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดมากกว่า 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ จะถือว่ามีอาการเมาสุราทันที ซึ่งเมื่อเกิดอุบัติเหตุและมีการตรวจพบว่ามีอาการเมาแล้วขับ ทางประกันรถยนต์ทุกชั้นจะไม่ให้ความคุ้มครองและไม่สามารถเคลมประกันได้ทุกกรณี

  2. ใช้รถในทางที่ผิดกฎหมาย
    กรณีที่รถยนต์ที่ทำประกันรถยนต์ชั้น 1 ถูกนำไปใช้ในทางที่ผิดกฎหมายจนเกิดอุบัติเหตุขึ้น ประกันรถยนต์ชั้น 1 จะไม่ให้ความคุ้มครองทุกกรณี รวมถึงการเคลมประกันรถยนต์ด้วย

  3. แข่งขันความเร็ว
    หากนำรถยนต์ไปแข่งขันความเร็วบนทางหลวงจนเกิดอุบัติเหตุขึ้นกับรถที่ทำประกันรถยนต์ชั้น 1 ทางประกันรถยนต์จะไม่ให้ความคุ้มครอง เพราะถือว่าตั้งใจนำรถยนต์ไปทำให้เกิดอุบัติเหตุที่เสี่ยงต่อการเสียหาย เพื่อหวังผลในการขอเคลมประกันรถยนต์

  4. ใช้รถยนต์ผิดประเภท
    การทำประกันรถยนต์ชั้น 1 สำหรับรถยนต์ส่วนบุคคล จะไม่สามารถนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์ได้ ซึ่งหากนำไปใช้ผิดประเภทและเกิดอุบัติเหตุขึ้นจนรถได้รับความเสียหาย ประกันรถยนต์จะไม่รับผิดชอบและชดใช้ค่าเสียหายให้กับผู้เอาประกัน เพราะถือว่าไม่ทำตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในกรมธรรม์

  5. ดัดแปลงตัวรถโดยไม่แจ้งบริษัทประกันภัย
    การแต่งเติมหรือดัดแปลงสภาพของตัวรถ ทั้งความสวยงามและความเร็ว จำเป็นจะต้องแจ้งบริษัทประกันภัยทุกครั้งที่มีการดัดแปลง รวมถึงในกรณีที่ติดแก๊สรถยนต์ด้วย เพราะการดัดแปลงสภาพรถจะต้องคำนึงถึงข้อกฎหมายที่ระบุเอาไว้ด้วย ซึ่งหากผู้เอาประกันไม่แจ้งกับทางบริษัทประกันภัย เมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นทางประกันรถยนต์จะไม่รับผิดชอบ

  6. นำรถไปก่อความเสียหาย เช่น นำไปประท้วง ก่อม็อบสร้างความรุนแรงในพื้นที่ฉุกเฉิน

  7. ตั้งใจชนให้เกิดอุบัติเหตุ ตรงนี้ใครหัวหมอ ชอบชนเพื่อเอาประกันอดนะ ถ้าเค้าสืบรู้ความจริง

  8. ชำระเบี้ยประกันไม่ครบ หากค้างจ่ายเบี้ยประกัน หรือ จ่ายล่าช้าเมื่อเกิดอะไรขึ้นส่วนนี้ ประกันไม่จ่ายแน่นอน

  9. ชนแล้วหนี กรณีนี้ประกันไม่จ่าย แล้วยังมีโอกาสขึ้นศาลด้วย

  10. เกิดอุบัติเหตุเองไม่มีคู่กรณี แต่ไม่สามารถระบุสาเหตุใดๆได้อาจต้องเสียค่า Excess เอง
ส่วนลดประวัติ ไม่มีชนเลยปีนั้น หรือ เป็นฝ่ายถูกตลอด ได้เท่าไหร่กันนะ

ส่วนลดประวัติดีไม่มีเคลม

  • ขั้นที่ 1 ขับรถดีตลอดปีไม่มีเคลมรับส่วนลด 20% ในปีถัดไป
  • ขั้นที่ 2 ขับรถดีไม่มีเคลม 2 ปี ติดต่อกัน รับส่วนลด 30% ในปีถัดไป
  • ขั้นที่ 3 ขับรถดีไม่มีเคลม 3 ปี ติดต่อกัน รับส่วนลด 40% ในปีถัดไป
  • ขั้นที่ 4 ขับรถดีไม่มีเคลม 4 ปีขึ้นไป รับส่วนลดประวัติดีสูงสุด 50% ในปีถัดไป จนกว่าจะมีการเคลม

ทำอย่างไรถึงจะได้ส่วนลดประวัติดี
การจะได้ส่วนลดประวัติดีนั้นไม่ยาก แต่ก็ไม่ถึงกับง่าย เพราะทั้งหมดขึ้นอยู่กับประวัติการขับรถของผู้ทำประกัน ที่จะต้องใช้ทั้ง ความระมัดระวัง ความรอบคอบและสติในการขับรถให้ปลอดภัย ถูกต้องตามกฎจราจร หากถามว่าหากเราเป็นฝ่ายผิด เเจ้งเคลมเสียประวัติไหม แน่นอนว่าอาจทำให้เสียสิทธิ์ในส่วนลดตัวนี้ไป


การคำนวณส่วนลด
จะคำนวณได้ก็ต่อเมื่อเราไปต่ออายุประกัน ซึ่งจะเช็คเบี้ยประกันรถยนต์ที่จะจ่ายในปีถัดไป เช่น ค่าเบี้ยประกัน 15,000 บาท ได้ส่วนลด 20% เท่ากับ 13,000×20% = 3,000 เท่ากับต้องจ่ายค่าประกันในปีนั้นเพียง 12,000 บาท


การขอใช้ส่วนลด
สามารถแจ้งขอใช้ส่วนลดประวัติดีกับบริษัทประกันภัยได้ทุกบริษัทที่จะต่อประกันและส่วนลดจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หากไม่มีการแจ้งเคลม ซึ่งสามารถรับส่วนลดได้สูงสุดถึง 50% เมื่อเลือกต่อประกันกับบริษัทเดิมอย่างต่อเนื่อง


เปลี่ยนบริษัทประกัน จะใช้ส่วนลดประวัติดีจากปีที่ผ่านมาได้ไหม
หากคุณมีประวัติการขับขี่รถที่ดีมาโดยตลอดแบบไม่ได้เคลมในปีที่ผ่านมาเลย เมื่อถึงเวลาต่ออายุประกันแล้วต้องเปลี่ยนบริษัทประกันภัยเจ้าใหม่ คุณสามารถแสดงหลักฐานและประวัติในการทำประกันรถของบริษัทเดิมเพื่อขอส่วนลดกับบริษัทใหม่ได้  แต่บริษัทประกันเจ้าใหม่จะไม่สามารถให้ส่วนลดได้ ในกรณีที่พึ่งทำประกันในปีแรกและเช็คประกันรถยนต์แล้ว ไม่มีหลักฐานหรือประวัติในการทำประกันกับบริษัทอื่นมาก่อน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy